วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แนะนำวัตถุการเรียนรู้ (Learning Object: LO)

       วัตถุการเรียนรู้หรือบทเรียนการเรียนรู้ (Learning Object: LO) หมายถึง สื่อการเรียนรู้ในรูปแบบสื่อดิจิตอลมัลติมีเดียที่ถูกสร้างขึ้นในลักษณะของวัตถุการเรียนรู้ที่มีองค์ประกอบครบถ้วนและสมบูรณ์สำหรับการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนโดยทั่วไปกำหนดไว้เพียง 1 วัตถุประสงค์การเรียนรู้ องค์ประกอบใน LO ได้แก่ รายการเนื้อหา (Content Items) แบบฝึกหัด (Practice Items) และแบบทดสอบสำหรับการประเมินผล (Assessment Items) ซึ่งคำว่า Learning Object เป็นคำที่กำหนดขึ้นโดยการให้เครดิตแก่ Wayne Hodgins [อ่านเพิ่มเติม...]
     สำหรับคำหรือ Technical Term อื่นๆ ที่ใช้เรียก Learning Object  ได้แก่  content objects, chunks, educational objects, information objects, intelligent objects, knowledge bits, knowledge objects, learning components, media objects, reusable curriculum components, nuggets, reusable information objects, reusable learning objects, testable reusable units of cognition, training components, and units of learning
    ประโยชน์ของการพัฒนา Learning Object คือ เพื่อสร้างมาตรฐานและเกิดความสะดวกในการแลกเปลี่ยนบทเรียนหรือวัตถุการเรียนรู้ในการเผยแพร่ใน LMS ต่างกันและการนำกลับมาใช้ใหม่ (Reusable) การนำบทเรียนไปใช้อย่างอิสระที่มีองค์ประกอบพร้อมสำหรับการเรียนรู้ (Self-contained) นอกจากนั้น สะดวกในการผนวกรวมแต่ละ Learning Object ให้เป็นบทเรียน (Lesson) หรือเรียกว่า Aggregated และที่สำคัญแต่ละ Learning Object สามารถผนวกรวมสารสนเทศของบทเรียนที่เรียกว่า Metadata รวมไว้ใน Learning Object ทำให้สะดวกต่อการค้นหาและค้นคืนนำกลับมาใช้ได้ง่ายอีกด้วย



    ตัวอย่างของ Learning Object ของไทยที่มีผู้พัฒนาและเผยแพร่ไว้ ได้แก่

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ขอเชิญนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วม "งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ปี 2556"


คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จะจัดงาน "มหกรรมวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2556" ส่วนภูมิภาพ ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคม 2556 ณ บริเวณหอประชุมใหญ่และหอประชุมหลังเล็ก มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จ.ยะลา พบกับกิจกรรมนิทรรศการวิชาการจากหน่วยงานภายในและภายนอก ผลงานนักศึกษาและคณาจารย์ การแสดง Science Show และการประกวดแข่งขันด้านวิชาการหลากหลายประเภท โปรดติดตามรายละเอียดและกำหนดการได้ที่เว็บไซต์คณะวิทยาศาสตร์ฯ http://science.yru.ac.th

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ขอเชิญผู้สนใจส่งผลงานและเข้าร่วมประชุมวิชาการ eLearn 2013


ขอเชิญผู้สนใจร่วมส่งผลงานประชุมวิชาการ  eLearn 2013 - The Tenth International Conference on eLearning for Knowledge-Based Society ในหัวข้อ "Theory and Pratice in eLearning, mLearning and Social Webs"  ระหว่างวันที่ 12-13 ธันวามคม 2556 นี้ ณ  Srisakdi Charmonman Institute of eLearning, Siam Technology College   อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  http://www.eLearningAP.com     และ
http://www.eLearn2013.com

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

20 อันดับแรกของ LMS ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด


เว็บไซต์ http://www.edudemic.com/2012/10/the-20-best-learning-management-systems นำเสนอข้อมูลส่วนแบ่งทางการตลาดของระบบบริหารจัดการการเรียนรู้ หรือ Learning Management System: LMS ไว้ โดย Moodle (http://www.moodle.org) ซึ่งเป็น LMS ประเภทซอฟต์แวร์เปิด (Open Source LMS) มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุด

วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การบริหารผู้บังคับบัญชาให้มีประสิทธิภาพ


เมื่อ วันที่ 10 กรกฎาคม 2556  เวลา 13.00-16.00 น. ได้มีโอกาสเข้าฟังการบรรยาย  เรื่อง  "ภาวะผู้นำกับการพัฒนาการศึกษาไทย"  ณ หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา  จัดโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา โดยมีท่าน ศ.นพ.ดร. กระแส ชนะวงศ์  เป็นวิทยากรซึ่งมีชื่อเสียง (นายแพทย์รางวัลแมกไซไซ) เป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และเป็นผู้สร้างประโยชน์นานัปการแก่แผ่นดินไทย เป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ประกอบวิชาชีพนายแพทย์ ผู้บริหาร นักการเมือง และที่สำคัญคือ เป็นแบบอย่างของครูที่ดีของศิษย์และเป็นต้นแบบของนักการศึกษาที่ดี 
        จากข้อคิดที่ได้มีประเด็นที่น่าสนใจนอกจากเรื่องของภาวะผู้นำ นอกจากภาวะผู้นำของผู้บริหารแล้ว ในฐานะที่เราเองเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ควรมีภาวะผู้นำในบทบาทของผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย เรียกว่า "การบริหารผู้บังคับบัญชา"  ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องเรียนรู้ พึงนำไปปฏิบัติ เพื่อให้การปฏิบัติงานในหน้าที่หรืออาชีพของเราประสบความสำเร็จ ผู้บริหารภาคภูมิใจ โดยท่านเสนอประเด็นการปฏิบัติตนของผุู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อเป็นผู้ชี้นำหรือบริหารจัดการผู้บังคับบัญชา ไว้หลายประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
    1. ฟังให้เป็น จับประเด็นให้ได้  หมายถึง การฟังผู้บังคับบัญชาอย่าฟังแค่ตามมารยาท แต่ฟังแล้วต้องจับประเด็นให้ได้ ไม่ว่าท่านจะพูดอ้อมค้อมอย่างไร สมมติผู้บังคับบัญชาเป็นผู้หญิง ซึ่งมีความละเอียดอ่อนมาก ท่านอาจจะกำลังแพ้ท้อง แต่อาจจะไม่พูดตรงว่าอยากให้เราไปซื้อมะขามหวานให้กิน แต่อาจจะพูดไปว่า “ที่เพชรบูรณ์ หรือที่ไหนนะที่มีมะขามอร่อย” .....คนเป็นผู้นำจะมีจินตนาการมากมาย อาจเหมือนคุนฟุ้งซ่านด้วยซ้ำ แต่ถ้าเราหัดฟังให้เป็น และสามารถจับประเด็นได้ เราจะสามารถเตรียมงานนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาได้
    2.พูดให้เป็น มีประเด็นให้คิด  ต้องพูดให้สั้นและตรงประเด็นเพราะเราเป็นลูกน้อง ไม่มีสิทธิ์พูดยาวอ้อมค้อมไปมา วิธีพูดจะต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะถ้าผู้บังคับบัญชาเตรียมตัวไม่ดีพอ อาจเป็นการสร้างความรำคาญใจ และทำให้บรรยากาศการทำงานเสีย

    3.ต้องมีศิลปะการทูต  หากนักการพูดพูด “Yes” ขอให้คิดว่าค่อนข้างดี แม้อาจจะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหากนักการฑูตคนนั้นพูด “N0” แสดงว่าคนๆ นั้นไม่ใช่นักการฑูตที่ดี
    ดังนั้น หากเราเป็นลูกน้อง ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับเจ้านาย เพราะผู้บังคับบัญชาอาจมีเรื่องต้องคิดต้องทำมาก คิดอาจจะเกินบ้าง ขาดบ้าง เราต้องดูจังหวะแห่งการปฏิเสธให้เหมาะสม

    4.ต้องไม่เป็นคนมีปัญหา คนทุกคนล้วนมีประโยชน์ คำพังเพยบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า “รกคนดีกว่ารกหญ้า” เราต้องรู้จักหาทางทำในสิ่งที่บังเกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่ายเพราะทุกคนมีธรรมชาติที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ หากได้รับการชมเชยจะทำให้ทำงานได้มากขึ้น

    5.ต้องรู้จักเสริมภาพพจน์ผู้บังคับบัญชา หากเราให้เครดิตยกย่องชมเชยแก่ผู้บังคับบัญชา อย่ากลัวว่าเราจะไม่ได้หน้า เพราะเครดิตทั้งหลายที่ให้แก่ผู้บังคับบัญชานั้น ย่อมล้นกลับมาหาเราเอง

    6.มองงานในแง่บวก มองโลกในแง่ดี  “There is always problem in every answer” ทุกคำตอบล้วนมีปัญหา งานทุกอย่างอาจมีปัญหาขัดข้อง แต่ขอให้เรามองโลกในแง่ดี มองในแง่บวก ถ้าได้ตัดสินใจร่วมกันแล้ว ต้องร่วมกันทำอย่างจริงจัง คนที่ไม่อยากทำงาน คือคนที่มีเค้าแห่งความไม่สำเร็จอยู่ในใจ

    7.ไม่ต้องทำงานเกินเวลาค่ำ แต่จงทำงานเช้าก่อนเวลา  การทำงานแต่เช้าก่อนเวลา แสดงถึงความกระตือรือร้นกระชุ่มกระชวย เสียสละ และร่างกายก็ยังสดชื่น แต่การทำงานเกินเวลาจนค่ำอาจแสดงถึงยังทำงานไม่เสร็จ หรือเรายังไม่ได้ทำอะไรอีกหลายอย่าง

    8.จงรักษาคำมั่นสัญญา หากได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับผู้บังคับบัญชาว่างานจะแล้วเสร็จภายใน 5 วันก็ต้องทำให้เสร็จ ถ้าไม่เสร็จ ต้องรีบบอกผู้บังคับบัญชาให้ทราบสาเหตุ มิฉะนั้นจะแสดงว่าเราไม่จริงจังกับงาน อย่าปล่อยให้งานค้างเติ่ง พอผู้บังคับบัญชาถามทีก็สะดุ้งที เพราะไม่มีคำตอบ ได้แต่ขอโทษ การขอโทษเรื่องเดิมบ่อยๆ ไม่ใช่สิ่งที่นำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน

    9.ต้องรู้จักจุดอ่อนผู้บังคับบัญชา  การศึกษาจุดอ่อนผู้บังคับบัญชา เพื่อไม่ให้จุดใต้ตำตอ ไปสร้างเรื่องให้เจ้านาย เกิดความรู้สึกเป็นปมด้อย อันจะกระทบถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเรากับเจ้านาย 
    ท่านครับ ใครๆ ก็ชมท่าน แต่ถ้าหากท่านไปเรียนรามคำแหงเอาความรู้เพิ่มเติมเสียหน่อยก็จะดีนะครับ”“ท่านครับ ท่านดีไปทุกอย่างเลยครับ แต่ลูกชายคนเล็กท่านไม่ไหวเลย ถ้าท่านพัฒนาอบรมลูกท่านได้ ผมว่าท่านจะมีชื่อเสียงมากนะครับ”ก่อนที่เจ้านายจะมีชื่อเสียง ลูกน้องที่บังอาจนำเสนอ อาจจะได้ยินเสียงที่ไม่พึงปรารถนาจากเจ้านายเสียก่อน

    10.อย่าใกล้ชิดผู้บังคับบัญชาจนเกินไป มีคนขยายความว่า “ผู้บังคับบัญชาเหมือนดังพระอาทิตย์” เข้าใกล้เกินไปก็ถูกแผดเผาจนร้อน ห่างเกินไปก็ขาดแสงสว่างจนมือมิด
    อย่างไรก็ตาม ผู้ใต้บังคับบัญชาที่สามารถปฏิบัติงานและปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องได้ทั้ง 10 ข้อ  ก็น่าจะมีโอกาสถูกบริหารจากผู้ใต้บังคับบัญชาในอนาคตก็ได้ นั่นหมายถึง มีโอกาสเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหารเนื่องจากมีความรู้ความสามารถในการบริหารคนและบริหารงานนั่นเอง
    อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://thethanika.blogspot.com/2010/09/10.html
http://www.yru.ac.th/web54/news/detail/1085/readnews-001085.html

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ประชุมวิชาการครุศาสตร์อุตสาหกรรม

ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมประชุมวิชาการ "ครุศาสตร์อุตสาหกรรมระดับชาติ ครั้งที่ 6" ระหว่างวันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2556 ณ ครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กรุงเทพฯ  หัวข้อการนำเสนอผลงานวิชาการครอบคลุมในสาขาต่างๆ ดังนี้
 
  สาขาวิชาครุศาสตร์เครื่องกล
  สาขาวิชาครุศาสตร์ไฟฟ้า
  สาขาวิชาครุศาสตร์โยธา
  สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล
  สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า
  สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
  สาขาวิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา
  สาขาวิชาบริหารอาชีวะและเทคนิคศึกษา
  สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
  สาขาวิชาบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม
  สาขาวิชาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

มาตรฐานอีเลิร์นนิ่ง (e-Learning Standard)

การพัฒนาบทเรียนอีเลิร์นนิ่ง มีการกำหนดมาตรฐานไว้หลากหลายมาตรฐาน ทั้งนี้เพื่อสะดวกในการนำมาใช้และแลกเปลี่ยนระหว่าง LMS (Learning Management System) มาตรฐานที่เผยแพร่และเป็นที่นิยมได้แก่ SCORM (Sharable Content Object Reference Model) ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=18851&Key=news15  ส่วนมาตรฐานอื่นๆ
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ดังต่อไปนี้

วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ยินดีต้อนรับสู่เว็บบล็อก http://ict-bl.blogspot.com

ดร.ศิริชัย นามบุรี
โทร. 084-1968099
       จากประสบการณ์การเรียนการสอนด้าน ICT ประสบการณ์วิจัยพัฒนาสื่่อการเรียนการสอน การวิจัยด้านการใช้ ICT เป็นฐานในการเรียนรู้ และความสนใจส่วนตัว ทำให้เกิดความคิดว่าน่าจะรวบรวมองค์ความรู้ สาระเรื่องราวต่างๆ นำเสนอผ่านเว็บบล็อก ซึ่งเป็นเครื่องมือในยุคเว็บ 2.0 เพื่อความสะดวกในการติดตามของผู้สนใจ ซี่งเดิมได้รวบรวมและเผยแพร่ไว้ในเว็บไซต์ http://www.e-learning108.info และ http://www.e-learing108.info/sirichai แต่ด้วยเวลาที่จำกัดและภารกิจการสอนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ไม่มีเวลาในการดูแลและปรับปรุงเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่มีเนื้อหาและรายละเอียดจำนวนมาก (เดิมเน้นด้านอีเลิร์นนิ่งโดยเฉพาะ)
      สำหรับเครื่องมือในยุคเว็บ 2.0 ซึ่งมีอยู่หลากหลายประเภท และเว็บบล็อกก็เป็นเครื่องมือสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันอย่างเป็นทางการ มีช่วงเวลากำกับการนำเสนอและเผยแพร่ หากนำมาใช้กับเครื่องมือหรือบริการอื่นๆ ของ Google ก็น่าจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ ท่านที่สนใจนำเสนอเรื่องราวผ่านเว็บบล็อกนี้ สมัครสมาชิกมาได้ที่  sirichai.nbr@gmail.com  เพื่อเพิ่มเป็นผู้ร่วมเขียนบทความในเว็บบล็อกนี้ครับ ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาติดตามผลงานมาโดยตลอด